วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทะเลยอดนิยมของประเทศไทย 10 แห่ง

อยากจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลของประเทศไทย 10 แห่ง ที่เป็นนิยมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ซึ่งมีศนียภาพสวยงามติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยนะ..



1. หาดกะตะ จ.ภูเก็ต

ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมือง 17 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางถนนเจ้าฟ้าถึงห้าแยกอ่าวฉลองเลี้ยวขวาเข้าถนนปฎัก หาดกะตะแบ่งออกเป็น 2 หาด คือหากะตะใหญ่ และหาดกะตะน้อย เป็นหาดที่เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ และใช้เป็นที่ฝึกดำน้ำเนื่องจากมีแนวปะการังติดต่อกันไปจนถึงเกาะปู


2. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา


"สิมิลัน" เป็นภาษายาวีหรือมายู แปลว่า หรือ หมู่เกาะเก้า เป็นหมุ่เกาะเล็กๆ ในทะเลอันดามัน มีทั้งหมด 9 เกาะ ได้แก่ เกาะหุยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง (มี 2 เกาะติดกัน) เกาปายู เกาะหัวกระโหลก (เกาะบอน) เกาะสิมิลัน และเกาะบางู หมู่เกาะเหล่านี้ยังคงมีความสมบูรณ์ของท้องทะเล สามรถำน้ำไท้งน้ำตื่นและน้ำลึก มีประการังสีสันวยงามและปลาทะเลหายากหลากชนิดให้ชมอย่างเพลิดเพลิน


3. ทะเลแหวก จ.กระบี่


หนึ่งในอันซีนไทยแลนด์ที่อยูกลางทะเลลึกแห่งอันดามัน เป็นหาดทรายที่ขาวสะอาดและวยงามอย่างยิ่ง โดยเป็นกลุ่มของเกาะ 3 เกาะที่มีสันหาดทรายสวยงามเชื่อมติกันเป็นแนว ได้แก่เกาะทับ เกาะหม้อ และเกาะไก่ แต่จะสามารถเดินข้ามจากเกาะและมองเห็นหาดทรายนี้ได้ในเฉพาะเวลาน้ำลงเท่านั้น เมื่อน้ำลแนวสันทรายจะค่อยๆๆ โผล่ขึ้นมาเหมือนกับว่าแบ่งทะเลให้แยกออกกันเป็นสามส่วนและ ขณะเดียวกันเมื่อน้ำขึ้นสูงสันทรายนี้ก็จะจมหายไป


4. เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี


เกาะสมุยมีชื่อเสียงไปทั่วโลก อยู่บริเวณอ่าวไทย พี้นที่ 1 ใน 3 เกาะเป็นที่ราบล้อมรอบภูเขา มีหาดสวยทรายขาวชื่อดังหลายแห่ง อาทิ หาดเฉลง หาดนาเทียน หาดตลิ่งงาม หาดละไม.. ชายหาดทอดยาวขนานไปกับทะเล ทัศนียภาพของต้นมะพร้าวริมชายหาดและน้ำทะเลใสสวย เป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวติดใจของความงาม


5. เกาะกระดาน จ.ตรัง


เป็นเกาะที่สวยที่สุดของทะเลตรัง อยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะมุกและเกาะลิบง เกาะนี้อย่ในความรับผิดชอบของอยุยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ที่เหลือเป็นวนยางและสวนมะพร้าวของเอกชน เกาะกระดานเป็นชายหาดที่ทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสจนมองเห็นแนวปะการัง และฝูงปลาหาลกสีหลายพันธุ์


6. เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล


จะมีชุมชนชาวเลอาศัยอยู่ ส่วนใหญ่มีอาชีพทำการประมง เกาะหลีเป๊ะเป็นเกาะที่มีความเป็นธรรมชาติของปะการังรอบเกาะ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม และหาดทรายที่ละเอียดนิ่มที่ทุกคนต้องไปลองดู..


7. เกาะเสม็ด จ.ระยอง


มีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ที่สามารถเดินทางสะดวก บนเกาะยังมีที่พัก ร้านอาหาร และกิจกรรมต่าง ๆใว้ให้บริการนักท่องเที่ยวตลอดวัน


8. เกาะช้าง จ.ตราด


เกาะช้างใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองจากภูเก็ตมีแหล่งท่องเที่ยว เช่นน้ำตก และหาดทรายที่สวยงามและยังสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก


9.หัวหิน จ.ประจวบศีรีขันธ์


หัวหินเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย


10. พัทยา จ.ชลบุรี


หาดพัทยาเป็นหาดที่มีถนนเลียบชายหาดซึ่งร่มรื่นด้วยพรรณไม้นานาชนิด นิยมไปนั่งพักผ่อนหรือเล่นกิจกรรมทางน้ำต่างๆ


วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองไทย 10 อันดับ


อันดับ 1 : กระบี่
เมืองติดชายฝั่งทะเลอันมัน มีหมู่เกาะน้อยใหญ่มากกว่า 100 เกาะ งดงามด้วยหาดทรายขาวทะเลใส และปะการังสว ด้วยกิจกรรมำน้ำเพื่อชมความอลังการของท้องทะเลไทย บริเวณ้านหน้าอ่าวนาง รวมทั้งการลงอาบน้ำแร่แช่น้ำอุ่นในน้ำตกร้อนและสระมรกต กลายเป็นกิจการมที่ดึงูดนักท่องเที่ยว ให้มารวมตัวกันที่กระบี่จำนวนมหาศาลในแต่ละปี


อันดับ 2 : เกาะภูเก็ต
ขึ้นชื่อว่าเป็นไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ ไม่ทำให้นักท่องเที่ยวผิดหวังแน่นอน เพราะที่นี่มีทั้งหาดทราย ชายทะเล และหมู่เกาะต่างๆ สวยงามจนเป็นที่น่าจับตามองไปทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมไปสู่เมืองท่องเที่ยวข้างเคียงได้อย่างสะดวกสบาย


อันดับ 3 : เชียงใหม่
ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน เมืองสาวงามแห่งล้านนา ก็มีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าท่องเที่ยวไม่น้อยไปกว่าที่ใดในโลก อย่างเช่นงานเทศกาลสงกรานต์ประจำปี ประเพณีสืบสานงานศิลป์ แผ่นดินล้านนา และการทำบุญตานชันข้าว นอกจากนี้ เมืองเชียงใหม่ยังขึ้นชื่อในเรื่องของความงดงามทางธรรมชาติ โดยเฉพาะการได้ไปสัมผัสน้ำค้างแข็ง หรือแม่คะนิ้งบนดอยอินทนนท์


อันดับ 4 : เชียงราย
เมืองแห่งการชิมชาพันธุ์ชิชิงอู่หลง ของกองกำลังพลัดถิ่น ที่มีชื่อเสียงรู้จักกันีในหมู่นักชิมชาชั้นเลิศ และยังเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม เชื้อาติ ศาสนา และภาษาอันหลากหลายของชนเผ่าต่างๆ นอกจากนี้ แหล่างท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงาม อย่างทุ่งดอกบัวตอง บ่อน้ำร้อน หรือแม้แต่ทุ่งดอกซากุระจากญี่ปุ่น ก็ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนเมืองเชียงรายมากมายในแต่ละปี


อันดับ 5 : พัทยา
เป็นที่ชาวต่างชาติ รู้จักขึ้นชื่อที่ทำให้หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ทำให้เมืองพัทยากลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับต้นๆ ไปโดยปริยาย นอกจากความงงามของท้องทะเลและสีสันยามค่ำคืน ประเพณี "วันไหล" ที่จัดขึ้นในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ 1 สัปดาห์ ยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว


อันดับ 6 : หัวหิน
จ. ประจวบศีรีขันธ์ เมืองตากอากาศที่มีอายุยืนยาว เป็นตำนานของกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันหัวหินไม่ได้มีเฉพาะชายหาดชะอำ หากยังขยายตัวต่อเนื่องกับแนวนชายหาดเรื่อยลงทางใต้ นับตั้งแต่เขาระเกียบ ปราณบุรี ไปจนถึง อ. บางสะพานน้อย เพื่อข้ามทะเลต่อไปจกระทั่งถึงเกาะทะลุ อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของท้องถิ่น


อันดับ 7 : เกาะช้าง
จ.ตราด มีขนาดใหญ่เป็นที่สองรองจากเกาะภูเก็ต สามารถเดินทางท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ เหมาะสมสำหรับหนุ่มสาววัยทำงาน ที่มีเวลาในวันหยุดสุดสัปดาห์เพียงน้อยนิด เอาไว้ไปเที่ยวกันเป็นกลุ่มก้อน หรือไปกับครอบครัวก็เวิร์คนะ


อันดับ 8 : เกาะสมุย
ตั้งอยู่กลางอ่าวไทย" เพราะเกาะสมุยเต็มไปด้วยหาดทรายขาวขนานกับท้องฟ้าใสทะเลสวย และทิวมะพร้าวริมชายหาดเกือบรอบเกาะ เป็น เสน่ห์เฉพาะตัวที่สร้างความหลงใหล และดึงดูดใจให้กับผู้มาเยือนเป็นที่สุด


อันดับ 9 : ทะเลตรัง
มีถ้ำมรกตเป็นแล่งท่องเที่ยวอันทรงเสน่ห์จนติดอันดับ "Unseen Thailand" และด้วยความงดงามของน้ำทะเลสีเขียวเข็ม เมื่อยามต้องแสงดวงอาทิตย์จะเปล่งประกายเหมือนสีมรกต เป็นเอกลักษณ์ของทะเลตรังแห่งนี้ รวามทั้งแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ มีความหลากหายทางชีวภาพ เหมาะแก่การทำกิจกรรมดำน้ำกับเพื่อนฝูงและครอบครัว


อันดับ 10 : พังงา
มีหมู่เกาะยาวน้อย ที่ได้รับการคัดเลือกจากนิตยสารจีโอกราฟฟิก ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชั้นนำของโลก ร่วมสัมผัสวิถีชีวิตหมู่บ้านชาวประมง ที่ยังคงดำรงชีพด้วการทำประมงแบบดั้งเดิมเอาไว้ และชมความงดงามงามของเกาะเล็เกาะน้อย ภายในอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา อย่างเช่นเขาพิงกัน และเขาตะปูหรือเกาะเจมส์บอนด์

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Hua Hin : ประจวบศีรีขันธ์

เมืองรอยต่อระหว่างภาคกลางตอนล่างกับภาคใต้ตอนบบนที่อยู่ไม่ไกลจาก กรุงเทพฯ หากพูดถึเมืองตากอากาศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเมื่ออดีตอย่าง "หัวหิน" คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เพียงไม่กี่ชั่วโมง



จากกรุงเทพฯ หัวหินเป็นที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสุขใจ นับเป็นเมืองตากที่ให้ความรู้สึกดีๆ ทุกครั้งที่ได้ไปเยือนอย่างแท้จริง



สถานที่ที่มีชื่อเสียง :


1.พระราชวังมฤคทายวัน




หาดชะอำ ณ ที่นี้ รัชกาลที่ 6 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังขึ้นในปี พ.ศ. 2466 นับเป็นวังเก่าที่มีสถาปัตยกรรมการก่อสร้าที่สวยงาม ให้นักท่องเที่ยวแวะชมได้อย่างเพลิดเพลินใจพร้อมสัมผัสบรรกาศริมทะเลสบายๆ



2. หาดหัวหิน


เป็นหาดทรายที่สวยงามราบเรียบและยังมีน้ำทะเลที่ใส เล่นน้ำได้ไม่รู้เบื่อ หากใครที่ชอบความสนุกก็สามารถหาม้าสักตัวขี่รอบหาดก็ได้


3. วัดเขาเต่า

อยู่ไม่ไกลเดินทางง่ายจาก หัวหิน มาที่นี้จิตใจสงบเพราะได้ไหว้พระ และยังได้สักการะเจ้าแม่กวนอิมขอพรที่ตรงปลายสุดของหาดเขาเต่า

4. วนอยุทยานปราณบุรี

ผืนป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ของประจวบฯ เที่ยวต่อเนื่องได้สะดวกจากหัวหินมีต้นโกงกางและพรรณไม้น้อยใหญ่ให้ศึกษาและเดินเที่ยวชมได้สะดวก

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

อัมพวา ตลาดน้ำยามเย็น


ตลาดอัมพาวา : ตลาดน้ำยามเย็น เปิด ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์

เป็นตลาดริมคลอง ตั้งอยู่ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม (จอดรถที่วัดอัมพวันเจติยารามได้) ทุกวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์



ในช่วงเวลาเย็นตั้งแต่ช่วงเวลา 14.00 - 21.00 น. ในคลองอัมพวาจะมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายอาหาร





และเครื่องดื่ม เช่น หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว กาแฟ โอเลี้ยง ขนมหวาน




และมีรถเข็นขายของบนบกด้วย บรรยากาศสบายๆ มีเพลงฟัง จากเสียงตามสายของชาวชุมชน




ประชาชนสามารถเดินเที่ยวชมตลาดหาซื้ออาหารรับประทาน และเช่าเรือไปเที่ยวชมดูหิงห้อยในยามค่ำ



ล่องเรือชมหิ่งห้อย การล่องเรือชมหิ่งห้อยยามค่ำคืนเป็นกิจกรรมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวที่มาพักมาเที่ยว



สมุทรสงครามมักไม่พลาดที่จะไปชม โดยปกติแล้วหิ่งห้อยจะมีมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม



นักท่องเที่ยวที่มีความประสงค์จะนั่งเรือชมหิ่งห้อยประกายความงามยามค่ำคืน สามารถติดต่อเรือได้ ซึ่งทางชุมชนตลาดอัมพวาได้จัดบริการไว้ให้ที่ตลาดน้ำอัมพวา (ราคา 50-60 บาท/ท่าน) หรือจะติดต่อกับที่พักหรือโฮมสเตย์ต่าง ๆ ในอัมพวาก็ได้ โดยเรือจะล่องไปตามลำน้ำแม่กลองหรือคลองย่อยต่าง ๆ ที่มีต้นลำพูริมฝั่ง



วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ปาย - อำเภอปาย


ปาย มนต์เสน่ห์ แห่งเมืองสามหมอก เมืองเล็กๆ ที่ปกคลุมไปด้วยไอหมอก โอบล้อมด้วยขุนเขา สายน้ำ และทุ่งนาเขียวขจี ปายจึงเป็นดินแดนที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากที่ต่างๆ เข้ามาสัมผัสบรรยากาศอันงดงามวิถีชีวิตที่เรียบง่าย สงบสุขของผู้คน อันเป็นเอกลักษณ์ ของดินแดนแห่งนี้..

ปาย อำเภอเล็ก ๆ ซึ่งเป็นทางผ่านไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ถูกธรรมชาติสรรสร้างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแห่งหนึ่ง แต่ก็แฝงไว้ซึ่งความงดงามทางธรรมชาติปาย

เป็นดินแดนอันแสนจะโรแมนติก และเป็นเมืองในฝันที่หลายท่านอยากไปซักครั้งหนึ่ง


สถานที่ท่องเที่ยวปาย ที่สำคัญอีกที่หนึ่ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีนักท่องเที่ยวจึงนิยม เดินทางมาพักผ่อน ที่ปาย จนทำให้เกิดธุรกิจ
การท่องเที่ยวมากมาย เช่น กิจการร้านอาหาร เครื่องดื่ม ธุรกิจโรงแรม สปา เกิดขึ้นมากมาย
ซึ่งทั้งหมดก็เป็นผลดีทำให้ เศรษฐกิจของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ปาย - เมื่อนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในเรื่องทะเลหมอกแล้ว เชื่อได้เลยว่า เมืองสามหมอกอย่างแม่ฮ่องสอน ก็คงจะเป็นอันดับต้นๆ ที่หลายๆท่านจะกล่าวถึงกัน

"ปาย" เมืองในฝันที่หลายๆคนพูดถึง และสำหรับท่านที่ยังไม่เคยไปก็คงจะนึกไม่ออกว่า เมืองเล็กๆที่ หลายๆคนพูดถึงนั้นเป็นยังไง

ปายถูกโอบล้อมไปด้วยเขาสูง เป็นรอยต่อชายแดนไทย-พม่า ฤดูหนาวอากาศเย็นจัด ที่แห่งนี้มักปกคลุมด้วยสายหมอก ละอองน้ำจางๆ ยามเช้า และด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คน มีความเป็นธรรมชาติสูง แต่แฝงไปด้วย เอกลักษณ์ของวัฒนธรรมที่หาดูได้ยากที่เมืองปาย

ปายยังเป็นสถานที่ๆสามารถทำกิจกรรม ทั้งเช่าจักรยานขี่เที่ยวชมเมือง หรือล่องแก่งแม่น้ำปาย ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ หรือจะเลือกขี่ช้างที่ปาย เดินป่า

ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน


ปางอุ๋ง : ข้อมูลทั่วไป

ปางอุ๋ง เป็นหมู่บ้านภายในโครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ในพระบรมราชินูปถัมป์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ลักษณะพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้ำเป็นแนวสนที่ปลูกเรียงรายอย่างกลมกลืน

ยามพระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนผืนน้ำเป็นลำแสงสีทองผ่านแนวสนเขียวขจี งดงามจนถือได้ว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในเมืองไทย เปรียบได้กับ นิวซีแลนด์เมืองไทย และเมื่อได้สัมผัสกับแปลงพันธ์ไม้เมืองหนาวหลากสีสันที่ปลูกประดับในโครงการ ฯ ซึ่งเปรียบเสมือนกับ สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย

ที่บ้านรวมไทย หรือ ปางอุ๋ง แห่งนี้่เกิดขึ้นได้โดยพระประสงค์ของ องค์ราชินีของเราที่ทรงต้องการให้ "ชาวปางอุ๋งมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข ตามวิถีของตนเอง" เนื่องเพราะ "วิีถีของชาวเขา" ทั้งหลายนั้นไม่มีความฟุ้งเฟ้อ ไม่มีความอยากได้อยากมีในวัตถุ มีแต่ความสงบและความสุขตามอัตภาพ พระองค์จึงไม่ประสงค์ให้ี่ปางอุ๋งมีไฟฟ้าใช้ ดังจะเห็นว่าไฟฟ้าทั้งหมดจะเป็นไฟปั่นซึ่งจะปิดประมาณ 4 ทุ่มเท่านั้น

เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของชาวบ้าน และพื้นที่ในแถบนั้นเป็นหลัก ทำให้ยากต่อการดูแลสถานที่ รวมทั้งการจัดการขยะที่นักท่องเที่ยวบางส่วนทิ้งไว้ เพื่อจะรักษาปางอุ๋ง ไว้ให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของแม่หลวงของเรา


ทางศูนย์ศิลปาชีพ จ. แม่ฮ่องสอน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลโดยตรง จึงได้มีการจัดระเบียบการเข้าเยี่ยมชม และเข้าพัก สถานที่ดังกล่าว ด้วยการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปยังปางอุ๋ง


ที่พักภายใน หมู่บ้านรวมไทย (ปางอุ๋ง) มีดังนี้

1. บ้านพักของโครงการพระราชดำริ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) โทร. 053-692056 - เต็นท์ โครงการพระราชดำริ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) รับจองพื้นที่กางเต็นท์ล่วงหน้าจำกัดวันละ 50 เต๊นท์(ไม่มีค่าใช้จ่าย)


2. รวมไทยเกสต์เฮาส์ อยู่ริมทะเลสาบ โทร . 053-611244 มี 4 แบบครับ คือ
- เกสต์เฮาส์ขนาดเล็ก และ บ้านชนเผ่า ราคา 250 บาท
- เกสต์เฮาส์ขนาดกลาง ราคา 350 บาท
- เกสต์เฮาส์ขนาดใหญ่ ราคา 500 บาท

วิธีการ เข้าพัก หรือ เที่ยวชม ปางอุ๋ง :

1. ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะ เข้าพัก หรือ เที่ยวชม ปางอุ๋ง จะต้องติดต่อขอรับบัตรอนุญาต ที่ศูนย์ศิลปาชีพ จ.แม่ฮ่องสอน (ในตัวเมือง) ก่อนเท่านั้น หากท่านไม่มีบัตรอนุญาต จะไม่สามารถขึ้นไปยัง ปางอุ๋ง ได้


2. กรณีนำเต็นท์ไปเอง ก็ต้องไปรับบัตรอนุญาตเพื่อใช้เป็นบัตรผ่านที่ ศูนย์ศิลปาชีพ จ.แม่ฮ่องสอน (ในตัวเมือง) อีกเช่นกัน

3. กรณีต้องการจองเกสต์เฮ้าส์ หรือเต็นท์พักแรม (ของโครงการฯ) ต้องไปชำระเงินที่ ศูนย์ศิลปาชีพ จ.แม่ฮ่องสอน (ในตัวเมือง) พร้อมทั้งรับบัตรอนุญาตเพื่อใช้เป็นบัตรผ่านทางเพื่อจะขึ้นไปยัง ปางอุ๋ง เช่นกัน

4. กรณีต้องการบ้านพัก และเกสต์เฮ้าส์ริมทะเลสาบเต็ม ทางศูนย์ฯ จะจัดให้ท่านเข้าพักเกสต์เฮ้าส์ของชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านรวมไทยให้5. หากไม่ได้พักแรมที่ปางอุ๋ง แต่ต้องการเข้าไปเที่ยวชม ก็ต้องไปรับบัตรอนุญาตก่อนเช่นกัน และจะไม่อนุญาตให้เข้าไปในหมู่บ้านรวมไทยก่อนเวลา 06.00 น.

5. หากไม่ได้พักแรมที่ปางอุ๋ง แต่ต้องการเข้าไปเที่ยวชม ก็ต้องไปรับบัตรอนุญาตก่อนเช่นกัน และจะไม่อนุญาตให้เข้าไปในหมู่บ้านรวมไทยก่อนเวลา 06.00 น.

6. ต้องติดต่อขอรับบัตรที่ ศูนย์ศิลปาชีพ จ.แม่ฮ่องสอน ก่อนเวลา 17.00 น.

7. กรณีจองเกสต์เฮ้าส์ไว้ แล้วไม่สามารถเข้าพักได้ในวันที่จอง ทางศูนย์ฯ จะไม่คืนเงินให้ แต่จะให้เลื่อนวันเข้าพักได้ (กรณีที่ห้องว่าง) ภายใน 3 เดือนค่ะ


8. จุดตรวจบัตรอนุญาต จะมี 2 จุด จุึดแรกคือบริเวณทางเข้าหมู่บ้านนาป่าแปก (ห่างจากโครงการประมาณ 10 กม.) และจุดที่สองคือ ทางเข้าหมู่บ้านรวมไทย

วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เกาะเสม็ด

เกาะเสม็ด แบ่งตามอ่าวต่างๆ ดังนี้ :


อ่าวช่อ/อ่าวทานตะวัน : ที่รวมสองอ่าวนี้ เป็นอ่าวเดียวกัน ก็เพราะว่าอ่าวนี้ เดิมชื่อว่า อ่าวช่อ แต่ต่อมามีเรียกกันหลายชื่อ ทำให้เกิดความสับสน กับนักท่องเที่ยว พอสมควร ถ้าดูจริงๆ แล้ว อ่าวช่อ และอ่าวทานตะวัน ก็มีโค้งอ่าวที่ติดต่อกัน แต่เรียกชื่อกันตาม รีสอร์ท ที่ตั้งอยู่ ในแต่ละตำแหน่งเท่านั้น โดยรวมอ่าวช่อ เป็นอ่าวที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน ผู้คน ไม่พลุกพล่าน หาดทรายขาว และสวยงาม ลงตัวดี กับวันพักผ่อนของคุณ




อ่าวพร้าว : จุดชมพระอาทิตย์ที่ติดปากนักท่องเที่ยว จากปากต่อปากของนักท่องเที่ยว ที่อ่าวพร้าว เป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยที่สุดบน เกาะเสม็ด การเดินทางจากท่าศาลา ใช้เวลาไม่มากนัก อ่าวพร้าวจึงเป็นอีกแห่งหนึ่ง ที่เราจะเห็นนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ นิยมมาพัก




อ่าวน้อยหน่า : บริเวณอ่าวน้อยหน่านี้ เหมาะสำหรับผู้ที่รักความเงียบสงบ และเป็นส่วนตัว ถึงอ่าวน้อยหน่า จะอยู่ใกล้ หาดทรายแก้ว แต่ความพลุกพล่านเรียกว่าต่างกัน เหมือนอยู่คนละเกาะ ใครที่ชอบความเงียบสงบ อ่านหนังสือ อาบแสงแดดเคล้าน้ำทะเล บริเวณนี้มีหาดทรายที่สะอาดพอที่จะเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ





อ่าวเทียน : อ่าวแสงเทียน เป็นอ่าวที่ เงียบสงบ ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน นักท่องเที่ยวที่มาพักอ่าวนี้ โดยมาก เน้นความสงบ เป็นส่วนใหญ่ หาดทราย ของอ่าวแสงเทียน ถ้าจะว่าไปแล้ว สะอาดกว่าด้าวหัวเกาะเสียด้วยซ้ำไป ก็เป็นเพราะนักท่องเที่ยวที่มาพักที่หาดนี้น้อยกว่าทำให้ธรรมชาติบริเวณนี้ ยังคงรักษาความสวยงาม ตามธรรมชาติได้ ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยว ประเภทกินลมชมวิว นอนนับดาวแล้วละก็ อ่าวแสงเทียน เป็นอีกอ่าวหนึ่ง ที่คุณไม่ควรพลาด ที่จะมาพักผ่อน



อ่าววงเดือน : อ่าวที่คุ้นหูนักท่องเที่ยวอีกอ่าวหนึ่ง เพราะเรือโดยสารประจำทาง ที่มาจากท่าศาลา จะมาส่งนักท่องเที่ยว ที่อ่าวนี้เป็นประจำ ถ้าจะบอกว่า เป็นป้ายสุดท้าย ของเรือโดยสารก็ไม่ผิดนัก อ่าววงเดือน คึกคักพอๆ กับหาดทรายขาว แต่ที่อ่าววงเดือน คุณสามารถเลือกได้หลายบรรยากาศถ้าต้องการความสงบเงียบก็ต้องทางด้าน หัวอ่าว ส่วนคนที่รักความคึกคัก ต้องเลือกกลาวอ่าว ถ้าชอบนั่งกินบรรยากาศ ให้คุณเลือกตามความต้องการอย่าง



อ่าวลุงดำ : ติดกับหาดแสงเทียนบรรยากาศดีที่พักไม่แพงเป็นชายหาดสลับกับโขดหิน ทิวทัศน์ดี เหมาะแก่การตกปลาบนสะพานที่ยื่นออกไป ปลาชุม สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้




หาดทรายแก้ว : ชายหาดที่คุ้นหู ที่สุดของนักท่องเที่ยว ที่มาถึง เกาะเสม็ด ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยว ที่ชอบความหลากหลาย หาดทรายแก้ว เป็นอีกหนึ่งหาด ที่คุณจะชอบ เพราะหาดนี้ไม่เคยหลับ เรียกว่า ตอนเช้าเล่นน้ำทะเล กลางวันอาบแดด ตอนเย็นชมพระอา ทิตย์ตก พอค่ำหน่อยก็ดื่มกิน อาหาร หรือจะมีแอลกอฮอล์นิดหน่อย เคล้าแสงจันทร์ก็ดูไม่เลว มีกิจกรรมให้ทำ ทั้งวันที่หาด ทรายแก้ว เหมาะสำหรับคนขี้เหงา และชอบความพลุกพล่าน ของผู้คน ที่หาดนี้ เป็นแหล่งรวมของเครื่องเล่นกีฬาทางน้ำ ทุกประเภท ที่มีบนเกาะทั้งเจ็ทสกี บานาน่าโบต เรือใบ ฯลฯ เอาเป็นว่า หาดนี้ หาดเดียวกับวันพักผ่อนหรือ วันหยุดสุดสัปดาห์ ก็ทำให้คุณลืมเวลาได้ไม่ยาก ข้อแนะนำ สำหรับนักท่องเที่ยว ที่รักความสะดวกสบาย ที่หาดทรายแก้ว มีบ้านพักหลายประเภทให้เลือก ในสนนราคาที่ขึ้นอยู่กับว่า มีออฟชั่นอย่างแอร์ พัดลม ตู้เย็น มีให้เพียบพร้อมขนาดไหน



อ่าวประการัง : อ่าวที่สงบเงียบ และไม่มีผู้คนพลุกพล่านอย่างแท้จริง อ่าวนี้มีหาดทรายเล็กๆ พอที่จะลงเล่นน้ำ และชมปะการังได้ จุดชมวิวบริเวณแหลมกุด ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ถ้าคุณมาท่องเที่ยวที่ เกาะเสม็ด โดยเจาะจงมาพักที่อ่าวปะกะรัง (ปะการัง แค้มปิ้ง) ในช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค. คุณจะได้พบกับนักตกปลา มาที่นี่กันมากสักหน่อย เพราะว่าช่วงนั้น จะเป็นช่วงที่ปลาอินทรีย์ จะมีมาก บริเวณอ่าวปะการัง โดยเฉพาะ หมายตกปลาที่คุ้นหู นักตกปลาทั่วไปคือ ร่องจันทร์ และสันฉลาม ซึ่งเป็น เกาะหินเล็กๆ ที่สามารถมองเห็นจากอ่าวปะการัง



อ่าวกิ่ว : อ่าวที่มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก หาดทรายสวยไม่แพ้อ่าวหวายเหมาะแก่การ เล่นน้ำ แบ่งเป็นอ่าวกิ่วใน และอ่าวกิ่วนอก เป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ ขึ้นและ ตกและดำน้ำตื้นชมปะการังและฝูงปลาสวยงาม



อ่าวสัปปะรด :



อ่าวหวาย : ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ยิ่งไกลจากหัวเกาะ และนักท่องเที่ยวน้อยลงเท่าไหร่ ธรรมชาติ ก็ยังคงความสวยงามแบบเดิมไว้มากเท่านั้น อ่าวหวาย ก็เป็นอีกอ่าวหนึ่ง ยังคงความสวยงามแบบเดิมไว้ที่อ่าวหวาย เหมาะกับนักท่องเที่ยว ที่รักความสงบ และเป็นส่วนตัว ที่อ่าวหวาย มี รีสอร์ท เพียงแห่งเดียว ดูแล้วค่อนข้างจะเป็นส่วนตัว และสงบพอสมควร เป็นอีกอ่าวหนึ่ง ที่ขอแนะนำ



อ่าวลุงหวัง : อ่าวช่อหรืออ่าวลุงหวัง มีสะพานอื่นออกไปในทะเลทรายขาวละเอียด เหมาะแก่การเล่นน้ำ ค่อนข้างสงบ การเดินทางที่สะดวกคือนั่งเรือมาลงอ่าว วงเดือนและเดินย้อนประมาณ 100 เมตร